าะด้วยธรรมชาติของสื่อที่สะดวก รวดเร็ว ส่งเมื่อไหร่ก็ได้ผลเมื่อนั้น ที่ Übersetzung - าะด้วยธรรมชาติของสื่อที่สะดวก รวดเร็ว ส่งเมื่อไหร่ก็ได้ผลเมื่อนั้น ที่ Englisch wie soll ich sagen

าะด้วยธรรมชาติของสื่อที่สะดวก รวดเร

าะด้วยธรรมชาติของสื่อที่สะดวก รวดเร็ว ส่งเมื่อไหร่ก็ได้ผลเมื่อนั้น ที่สำคัญ ยังมีลูกเล่นแพรวพราว คนจึงเข้าไปอินไปสนุก เอ็นจอยโดยไม่เบื่อ

ไม่เว้นแม้แต่ในแวดวงการเมือง ที่ชุมชนนี้เข้าไปมีอิทธิพลในหลายรูปแบบ ไม่แพ้สังคมอื่นๆ

ที่เห็นได้ชัด ก็เช่นการโพสต์กระทู้ ขัดแย้ง หรือต่อต้านความเห็นที่ไม่เข้าท่า หรือแตกต่างจากความคิดส่วนตัว บางครั้งก็ช่วยเปิดโปงความจริง ให้คนอื่นได้รับรู้

หรือไม่ก็เป็นการร่วมระดมพลพรรค ออกโรงชุมนุมตามสิทธิ์ที่มีในรัฐธรรมนูญ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เล่นเอาสื่ออื่นฮือฮาเอามาพาดหัวข่าว คนใหญ่คนโตในบ้านเมืองก็ยังแคร์และให้ความสำคัญกับเขาด้วย

หนักที่สุดผมเห็นขนาดที่ว่า ใครที่มีความคิดเป็นพิษภัยต่อบ้านเมือง หรือสถาบันหลักของชาติ สังคมออนไลน์ ก็พร้อมจะช่วยกันแฉ เอามาตีแผ่ ประจานให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ไปด้วย

ล่าสุดผมอาศัยช่วงว่างวันหยุดยาวจากเหตุไม่สงบ เข้าไปอ่าน Burson Marsteller 2010 Global Social Media Check Up Report ที่ได้รายงานผลวิจัยกับบริษัท Top 100 ที่ติดอันดับในนิตยสาร Fortune เรื่องการใช้ Social Media โดยแบ่งออกเป็นบริษัทในยูเอส 29 แห่ง ยุโรป 48 แห่ง เอเชียแปซิฟิก 20 แห่ง และละตินอเมริกา 3 แห่ง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ร้อยละ 79 ของบริษัทฯ ที่ว่าเคยใช้ Social Network อย่างน้อยหนึ่งอย่างจากบริการ Twitter , facebook, Youtube หรือแม้กระทั่งบล็อกของตัวเองที่สร้างเพื่อใช้กันภายใน ในนี้มีถึง 20% ที่ระดมใช้ทั้ง 4 อย่างเลยทีเดียว

สะท้อนว่าบรรดาข้อถกเถียงทั้งหลายที่เคยมี เช่น บริษัทฯ ควรเปิดให้พนักงานใช้ Social Media หรือไม่? หรือควรเปิดใช้เวลาใด? ใครควรใช้ ใครไม่ควรใช้? กลายเป็นประเด็นที่ถูกยิงตกไปโดยปริยาย

อีกมุมหนึ่ง วันนี้แทบไม่มีองค์กรไหนไม่รู้จัก Social Media ซะด้วยซ้ำ ขนาดออฟฟิศผม ผู้บริหารก็ยังคุยกันสร้างเป็นนโยบายใหม่ อย่าให้อายุเป็นอุปสรรค เราต้องก้าวให้ทันเทรนด์ ใครไม่มีไม่เล่น เชยที่สุด ตกยุคเอาดื้อๆ เผลอๆ จะซวยขนาดตามผู้บริโภคไม่ทัน และกลายเป็นองค์กรล้าหลังในที่สุด

ผมได้คุยกับเพื่อนๆ อีกหลายคน ได้ยินว่าผู้บริหารบางองค์กรก็เริ่มเปลี่ยนทัศนคติด้วย ที่เคยใจแคบ กลัวพนักงานจะเบียดบังเวลา นั่งเล่นเกม อัพโหลดรูปส่วนตัว แชทกับเพื่อน ก็ไม่กลัวอีกต่อไป

เรื่องนี้ ยิ่งห้าม ก็ยิ่งโดนต่อต้าน การไม่มีไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา ถ้าพื้นฐานองค์กรดี ไม่เอาเปรียบพนักงาน ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนเอาเปรียบ

ทัศนะส่วนตัว ผมว่าให้พนักงานเข้าไปล็อกอินบ้าง เอ็นจอยบ้าง Productivity ในงานน่าจะดีขึ้น เพราะคนไม่ใช่เครื่องจักร ที่ทำงานโดยไม่มีชีวิตจิตใจ หรือแบ่งแยกระหว่างงาน กับ ความเพลิดเพลินไม่เป็น

ถ้าให้ฟันธงเลย ผมสนับสนุนว่า Social Media ควรจะมีในองค์กรอย่างแรง และไม่ใช่มีธรรมดาด้วยนะครับ ต้องตักตวงขีดความสามารถ และใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกๆ บริบทที่จะทำได้

ง่ายที่สุด ต้องใช้เป็นช่องทางกระจายข้อมูลข่าวสารที่ผู้บริหาร หรือ HR ต้องการแจ้งให้สังคมข้างในได้รับทราบ เรียนรู้ หรือปฏิบัติตาม

ผู้บริหารบางคนพูดไม่เก่ง แต่มักมีประโยคเด็ดๆ ทิปส์สั้นๆ ที่อ่านแล้วโดน ก็สามารถใช้ช่องทางนี้สื่อสารกับลูกทีมได้เหมือนกัน เป็นการสร้าง Learning Organization ได้อีกแบบ

หรือบางท่านสบโอกาสใช้ Social Media สร้างความเป็นกันเอง ตีสนิทกับลูกน้อง ผมก็ชื่นชม เพราะบางครั้งการได้คุยเรื่องส่วนตัวกันบ้าง ได้อัพเดทกิจกรรม ที่ไม่ใช่แค่เรื่องงานกับงาน ได้เห็นรสนิยม งานอดิเรกที่ชอบทำ จะทำให้เราเข้าถึงหัวใจลูกน้องมากขึ้น สัมพันธ์โดยรอบก็จะแนบแน่นตามไปด้วย เกิดอานิสงส์ ลดความเครียดในเนื้องานตามลำดับ

ที่สำคัญที่สุด Social Media ทำให้เรารู้ว่า ลูกน้องเราคิดอะไรอยู่ โกรธเคืองใครหรือไม่ ? หรือไม่พอใจในงานจุดไหน? ถ้ามีความเข้าใจผิดใดๆ เราในฐานะหัวหน้างานจะได้ช่วยเหลือจัดการได้ทันท่วงที ..แต่ลูกน้องคนไหนล่ะที่อยากแอด เจ้านายเป็นเพื่อน?

เหตุผลก็ไม่ซับซ้อนครับ บางทีลูกน้องก็มักจะเผลอบ่น ก่นด่า รำพึงรำพัน และไม่อยากให้เจ้านายได้รู้ เพราะคิดว่านี่คือโลกส่วนตัว โลกที่ต้องการกันคนที่ไม่ใช่พวกตัวเองออก

ไม่ผิดหรอกครับ เพราะโลกไซเบอร์คือสิทธิ์ส่วนบุคคล แต่การปฏิเสธไม่รับ สำหรับผมคือเรื่องน่าเกลียด เพราะเท่ากับว่าเราแยกแยะไม่ได้ และปิดหนทางที่อาจนำไปสู่มิตรภาพที่ดีงามระหว่างกัน

เปิดใจเสียใหม่ครับ อยากให้มองโลกในแง่ดี นี่คืออีกหนึ่งโอกาสที่เราจะได้เรียนรู้กันและกัน ตัวตนของเจ้านายที่แท้จริง อาจไม่ใช่สิ่งที่เขาแสดงออกก็ได้ หัวโขนที่เขาได้รับ อาจทำให้ต้องสวมบทโหดในบางครั้ง ช่วงชีวิตของผม ก็เคยเข้าใจคนผิดไป หลังๆ ผมเริ่มเรียนรู้ว่า “คนดีไม่มีใครอยากทำร้ายจิตใจคนอื่นหรอกครับ”

แม้ Social Media จะอิสรเสรีแค่ไหน ยังไงเราก็ต้องเคารพสิทธิส่วนบุคคลของคนอื่นๆ ด้วย ก่อนที่จะพูด จะคอมเมนท์ใดๆ ก็ต้องคิดหน้า ระวังหลัง และเขียนอย่างมีสติ

เหตุที่ผมต้องเตือนกันก่อน เพราะไล่หลังมานี้ เหตุบ้านการเมือง ทำให้คนไทยเริ่มใช้วาจารุนแรงมากขึ้น พร้อมจะห้ำหั่น หรือฆ่ากันให้ตายได้ เพียงแค่ ไม่ใช่พวกเดียวกัน หรือมีความเห็นแตกต่าง เลือกที่จะอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง

เพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จัก เคยให้มุมมองในเรื่องนี้อย่างน่าสนใจว่า “การที่เราบ่นด่า สบถโดยใช้คำไม่สุภาพบน facebook อาจไม่ต่างอะไรกับคนเสเพลที่ชอบผรุสวาท ด้วยภาษาที่เปรอะเปื้อนบนกำแพงสาธารณะ”

ผมเห็นด้วยนะครับ ยิ่งเราใช้ภาษาไม่ดีแค่ไหน มันก็สะท้อนกลับมาถึงตัวเองเท่านั้น Social Network Citizen คนอื่นๆ จะตัดสินวิธีคิด จากวิธีพูดของเรา

สำหรับคนที่เป็นเจ้านายนั้น ผมชวนให้รู้จักปล่อยวางเหมือนกัน และอย่าเพิ่งด่วนตัดสินลูกน้องจากสิ่งที่เขาเขียน หรือพูดบนสื่อสาธารณะ ในบางครั้ง เขาอาจแค่บ่นเฉยๆ โดยไม่คิดอะไร เพราะธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อเครียด หรือหงุดหงิด ก็ต้องแสดงออกเป็นธรรมดา
0/5000
Von: -
Zu: -
Ergebnisse (Englisch) 1: [Kopieren]
Kopiert!
By the nature of the medium fast When it works, there are also the major tricks people into the tricky to have fun n the screen by not bored.Not even in the political circles that this community to influence in a variety of formats. Do not lose any other society.The obvious, such as posting threads Conflict or against the opinion that no port or different from private thoughts sometimes helped unmask the truth to other people.Or not, as the Republican party, raising rally by plant design rights in the Constitution. During the several weeks ago. Remove Media Player hueha to bring the big headlines, people who grow up in the care and attention with him.Finally I saw the size of the heavy, that anyone who is thought to be harmless per country or institution of national principle. Social media will help remove Almaty spread to expose, unfolding the others get to know.Last weekend, I lived an empty range from why Burson Marsteller into terrorists read the 2010 Global Social Media Check Up Report that reported the Top 100 companies research in magazines. Use of Social Media by Fortune is divided into 29 European companies in u.s. Asia-Pacific property 48. Designed and built 20 Latin America 3Please, please, no 79 percent of the company that have used the Social Network Twitter, at least one service, facebook, Youtube or even my own blog was created to share. This is up to 20% on the mobilization of all four. สะท้อนว่าบรรดาข้อถกเถียงทั้งหลายที่เคยมี เช่น บริษัทฯ ควรเปิดให้พนักงานใช้ Social Media หรือไม่? หรือควรเปิดใช้เวลาใด? ใครควรใช้ ใครไม่ควรใช้? กลายเป็นประเด็นที่ถูกยิงตกไปโดยปริยาย อีกมุมหนึ่ง วันนี้แทบไม่มีองค์กรไหนไม่รู้จัก Social Media ซะด้วยซ้ำ ขนาดออฟฟิศผม ผู้บริหารก็ยังคุยกันสร้างเป็นนโยบายใหม่ อย่าให้อายุเป็นอุปสรรค เราต้องก้าวให้ทันเทรนด์ ใครไม่มีไม่เล่น เชยที่สุด ตกยุคเอาดื้อๆ เผลอๆ จะซวยขนาดตามผู้บริโภคไม่ทัน และกลายเป็นองค์กรล้าหลังในที่สุด ผมได้คุยกับเพื่อนๆ อีกหลายคน ได้ยินว่าผู้บริหารบางองค์กรก็เริ่มเปลี่ยนทัศนคติด้วย ที่เคยใจแคบ กลัวพนักงานจะเบียดบังเวลา นั่งเล่นเกม อัพโหลดรูปส่วนตัว แชทกับเพื่อน ก็ไม่กลัวอีกต่อไปเรื่องนี้ ยิ่งห้าม ก็ยิ่งโดนต่อต้าน การไม่มีไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา ถ้าพื้นฐานองค์กรดี ไม่เอาเปรียบพนักงาน ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนเอาเปรียบ ทัศนะส่วนตัว ผมว่าให้พนักงานเข้าไปล็อกอินบ้าง เอ็นจอยบ้าง Productivity ในงานน่าจะดีขึ้น เพราะคนไม่ใช่เครื่องจักร ที่ทำงานโดยไม่มีชีวิตจิตใจ หรือแบ่งแยกระหว่างงาน กับ ความเพลิดเพลินไม่เป็นถ้าให้ฟันธงเลย ผมสนับสนุนว่า Social Media ควรจะมีในองค์กรอย่างแรง และไม่ใช่มีธรรมดาด้วยนะครับ ต้องตักตวงขีดความสามารถ และใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกๆ บริบทที่จะทำได้ง่ายที่สุด ต้องใช้เป็นช่องทางกระจายข้อมูลข่าวสารที่ผู้บริหาร หรือ HR ต้องการแจ้งให้สังคมข้างในได้รับทราบ เรียนรู้ หรือปฏิบัติตามผู้บริหารบางคนพูดไม่เก่ง แต่มักมีประโยคเด็ดๆ ทิปส์สั้นๆ ที่อ่านแล้วโดน ก็สามารถใช้ช่องทางนี้สื่อสารกับลูกทีมได้เหมือนกัน เป็นการสร้าง Learning Organization ได้อีกแบบหรือบางท่านสบโอกาสใช้ Social Media สร้างความเป็นกันเอง ตีสนิทกับลูกน้อง ผมก็ชื่นชม เพราะบางครั้งการได้คุยเรื่องส่วนตัวกันบ้าง ได้อัพเดทกิจกรรม ที่ไม่ใช่แค่เรื่องงานกับงาน ได้เห็นรสนิยม งานอดิเรกที่ชอบทำ จะทำให้เราเข้าถึงหัวใจลูกน้องมากขึ้น สัมพันธ์โดยรอบก็จะแนบแน่นตามไปด้วย เกิดอานิสงส์ ลดความเครียดในเนื้องานตามลำดับ
ที่สำคัญที่สุด Social Media ทำให้เรารู้ว่า ลูกน้องเราคิดอะไรอยู่ โกรธเคืองใครหรือไม่ ? หรือไม่พอใจในงานจุดไหน? ถ้ามีความเข้าใจผิดใดๆ เราในฐานะหัวหน้างานจะได้ช่วยเหลือจัดการได้ทันท่วงที ..แต่ลูกน้องคนไหนล่ะที่อยากแอด เจ้านายเป็นเพื่อน?

เหตุผลก็ไม่ซับซ้อนครับ บางทีลูกน้องก็มักจะเผลอบ่น ก่นด่า รำพึงรำพัน และไม่อยากให้เจ้านายได้รู้ เพราะคิดว่านี่คือโลกส่วนตัว โลกที่ต้องการกันคนที่ไม่ใช่พวกตัวเองออก

ไม่ผิดหรอกครับ เพราะโลกไซเบอร์คือสิทธิ์ส่วนบุคคล แต่การปฏิเสธไม่รับ สำหรับผมคือเรื่องน่าเกลียด เพราะเท่ากับว่าเราแยกแยะไม่ได้ และปิดหนทางที่อาจนำไปสู่มิตรภาพที่ดีงามระหว่างกัน

เปิดใจเสียใหม่ครับ อยากให้มองโลกในแง่ดี นี่คืออีกหนึ่งโอกาสที่เราจะได้เรียนรู้กันและกัน ตัวตนของเจ้านายที่แท้จริง อาจไม่ใช่สิ่งที่เขาแสดงออกก็ได้ หัวโขนที่เขาได้รับ อาจทำให้ต้องสวมบทโหดในบางครั้ง ช่วงชีวิตของผม ก็เคยเข้าใจคนผิดไป หลังๆ ผมเริ่มเรียนรู้ว่า “คนดีไม่มีใครอยากทำร้ายจิตใจคนอื่นหรอกครับ”

แม้ Social Media จะอิสรเสรีแค่ไหน ยังไงเราก็ต้องเคารพสิทธิส่วนบุคคลของคนอื่นๆ ด้วย ก่อนที่จะพูด จะคอมเมนท์ใดๆ ก็ต้องคิดหน้า ระวังหลัง และเขียนอย่างมีสติ

เหตุที่ผมต้องเตือนกันก่อน เพราะไล่หลังมานี้ เหตุบ้านการเมือง ทำให้คนไทยเริ่มใช้วาจารุนแรงมากขึ้น พร้อมจะห้ำหั่น หรือฆ่ากันให้ตายได้ เพียงแค่ ไม่ใช่พวกเดียวกัน หรือมีความเห็นแตกต่าง เลือกที่จะอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง

เพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จัก เคยให้มุมมองในเรื่องนี้อย่างน่าสนใจว่า “การที่เราบ่นด่า สบถโดยใช้คำไม่สุภาพบน facebook อาจไม่ต่างอะไรกับคนเสเพลที่ชอบผรุสวาท ด้วยภาษาที่เปรอะเปื้อนบนกำแพงสาธารณะ”

ผมเห็นด้วยนะครับ ยิ่งเราใช้ภาษาไม่ดีแค่ไหน มันก็สะท้อนกลับมาถึงตัวเองเท่านั้น Social Network Citizen คนอื่นๆ จะตัดสินวิธีคิด จากวิธีพูดของเรา

สำหรับคนที่เป็นเจ้านายนั้น ผมชวนให้รู้จักปล่อยวางเหมือนกัน และอย่าเพิ่งด่วนตัดสินลูกน้องจากสิ่งที่เขาเขียน หรือพูดบนสื่อสาธารณะ ในบางครั้ง เขาอาจแค่บ่นเฉยๆ โดยไม่คิดอะไร เพราะธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อเครียด หรือหงุดหงิด ก็ต้องแสดงออกเป็นธรรมดา
Übersetzt wird, bitte warten..
Ergebnisse (Englisch) 3:[Kopieren]
Kopiert!
Do with the nature of media, convenient, fast, when the result is then important solutions play tricky people went in to enjoy, enjoy without boring

.Even in politics. The community into this influence in various forms, as other societies

.Obviously, such as posting threads, conflict, or against the opinion that doesn't make sense. Or different from personal idea. Sometimes it helps to uncover the truth, let others know

.Or a joint rally party. Released by rights in constitution, the assembly In the last several weeks. Other popular media player took the headlines. The great men of the country still care about and pay attention to him

.Hard as I see that. Anyone who has ideas, toxic hazard country or institution of national online community, was ready to help each other to unfold it unfold, to expose the others. Get to know too

.Last, I rely on the leisure holidays from unrest in reading Burson Marsteller 2010 Global Social Media Check Up Report have research report to the company. Top 100 top magazines in Fortune about using Social Media divided into companies in the U.S. 29.48 of Asia Pacific and Latin America 20 of 3 of
.
if you can believe it. 79% of the company that used Social Network at least one from the service Twitter Facebook,,, Youtube or even their own blog, created for use in. This has to 20% raising both 4 work ever

.The reflection that the arguments they had. Such as, the company should open to employees using Social Media? Or should take any open?? Who should use, who should not be used? Become the issue was shot down by default

.Another view, today almost no organization is unknown Social Media. Even my office administrators also talk about creating a new policy. Don't let the age barrier. We have to keep the pace trend, who doesn't play, rustic, fall the took a drink water along.Will this size according to consumers in time. The organization behind and become finally
.
I talked to friends many people heard that some executives organizations began to change attitudes. Ever narrow-minded. Fear employees will rule time. Games upload personal, chat with friends, do not fear

.This, the banned the opposition, there is not a solution of the problem. If the basis the กรดี taking advantage employees, do not worry about being exploited.

.Personal opinion. I think the staff to login. Enjoy some Productivity in better, because other machinery. Work without life or divided between work and pleasure not

.
Übersetzt wird, bitte warten..
 
Andere Sprachen
Die Übersetzung Tool-Unterstützung: Afrikaans, Albanisch, Amharisch, Arabisch, Armenisch, Aserbaidschanisch, Baskisch, Bengalisch, Birmanisch, Bosnisch, Bulgarisch, Cebuano, Chichewa, Chinesisch, Chinesisch Traditionell, Deutsch, Dänisch, Englisch, Esperanto, Estnisch, Filipino, Finnisch, Französisch, Friesisch, Galizisch, Georgisch, Griechisch, Gujarati, Haitianisch, Hausa, Hawaiisch, Hebräisch, Hindi, Hmong, Igbo, Indonesisch, Irisch, Isländisch, Italienisch, Japanisch, Javanisch, Jiddisch, Kannada, Kasachisch, Katalanisch, Khmer, Kinyarwanda, Kirgisisch, Klingonisch, Koreanisch, Korsisch, Kroatisch, Kurdisch (Kurmandschi), Lao, Lateinisch, Lettisch, Litauisch, Luxemburgisch, Malagasy, Malayalam, Malaysisch, Maltesisch, Maori, Marathi, Mazedonisch, Mongolisch, Nepalesisch, Niederländisch, Norwegisch, Odia (Oriya), Paschtu, Persisch, Polnisch, Portugiesisch, Punjabi, Rumänisch, Russisch, Samoanisch, Schottisch-Gälisch, Schwedisch, Serbisch, Sesotho, Shona, Sindhi, Singhalesisch, Slowakisch, Slowenisch, Somali, Spanisch, Sprache erkennen, Suaheli, Sundanesisch, Tadschikisch, Tamil, Tatarisch, Telugu, Thailändisch, Tschechisch, Turkmenisch, Türkisch, Uigurisch, Ukrainisch, Ungarisch, Urdu, Usbekisch, Vietnamesisch, Walisisch, Weißrussisch, Xhosa, Yoruba, Zulu, Sprachübersetzung.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: